Na Na Sa Ra [นานา สาระ]

วันเสาร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2552

Equityกรอบสัปดาห์นี้คาด 685-725 จุด BY TRITY


PDF Print E-mail


Equityกรอบสัปดาห์นี้คาด 685-725 จุด BY TRITY






ความเห็นต่อการลงทุน

ตลาดหุ้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่ม 39.4 จุด (+6% WoW) และซื้อขายในระหว่างสัปดาห์ในช่วงดัชนี 664.83 710.90 จุด ปรับตัวขึ้น 48 % YTD ในขณะที่ Index Futures S50U09 เพิ่ม 35.1 จุด (+7 % WoW) กรอบของ Index Futures อยู่ในช่วง 464.9 512.3 จุด ราคาพันธบัตร 10 ปีสหรัฐฯ ราคาผันผวนตลอดทั้งสัปดาห์และลงมาปิดที่ 102.22 ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ 10 ปี (10 Yr-Bond Yield) ปรับตัวลดลงเพียงเล็กน้อยเพียง 0.01 Basis Points แม้ว่าจะมีการประมูลพันธบัตรอายุ 3, 10, 30, ปี มูลค่า 7 หมื่นล้านบาทแต่ผลปรากฎว่า demand ดีมาก ทำให้ bond yield ปรับตัวลดลง แต่การปรับตัวลดลงของ bond yield ไม่ได้ทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวลงตามที่คาดไว้ กระแสของ fund flow ยังคงไหลเข้าทั้งตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตร นอกจากนี้ ค่าเงินเหรียญสหรัฐฯ ยังคงอ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง โดย U.S. Dollar Index ปรับตัวลงทำสถิติต่ำสุดใหม่ที่ 76.7 รวมถึงการที่ทางการจีนผ่อนคลายการควบคุมการไหลเข้าของเงินลงทุนส่งผลให้ค่าเงินในเอเซียแข็งค่าขึ้น เป็นแรงผลักดันให้ตลาดหุ้นทั่วโลกทำสถิติสูงสุดในรอบปีอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับตลาดหุ้นไทยยังมีปัจจัยบวกจากประเด็นการควบรวมกิจการของกลุ่ม PTT และประเด็นสัญญาสัมปทานใหม่ 3G ผลักดันให้กลุ่มกลุ่มพลังงานและกลุ่มสื่อสารปรับตัวขึ้น 8% และ 6% ตามลำดับ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปรับตัวขึ้นเพียง 3.75 เหรียญฯ/บาร์เรล หรือ 6% แม้จะมีข่าวดีหนุนว่าสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ปรับขึ้นตัวเลขคาดการณ์อุปสงค์น้ำมัน และ EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลงถึง 5.9 ล้านบาร์เรล ในขณะเดียวกันราคาทองคำยังคงยืนอยู่แถวระดับเกือบ 1,000 เหรียญฯ/ออนซ์ ได้อย่างแข็งแกร่ง

หากพิจารณาจากทิศทางของการไหลเข้าของเงินทุนต่างประเทศแล้วเป็นได้อย่างมากว่ากระแส Fund Flow ครั้งนี้อาจจะยังไม่จบ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ Valuation ของตลาดหุ้นไทยขณะนี้ ถือว่าค่อนข้างตึงตัวพอสมควร เนื่องจาก Earnings ยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นตามได้ทันราคาหุ้นที่วิ่งขึ้นมา การซื้อหุ้นในขณะนี้จึงควรต้องใช้ความระมัดระวัง เราแนะนำเลือกลงทุนเฉพาะหุ้นที่มีประเด็นบวกอย่างชัดเจนเช่น หุ้นกลุ่มพลังงาน 4 ตัวที่อยู่ในประเด็นการควบรวมกิจการคือ TOP, IRPC, PTTCH, PTTAR และบริษัทแม่อย่าง PTT หรือหุ้นกลุ่มสื่อสารที่มีประเด็น 3G คอยผลักดันอยู่ คือ DTAC, TRUE, ADVANC ส่วน CPF และ TUF เราแนะนำซื้อจากผลการดำเนินงานที่จะในไตรมาส 3/52 ดีขึ้นอย่างโดดเด่นสำหรับ CPF และ กำไรในปี 2553 เติบโตขึ้นมาก สำหรับ TUF

สำหรับ Asset Class อื่น ๆ เรามองว่าทองคำยังเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจอยู่ ราคาน่าจะยังยืนอยู่ในระดับสูงและมีโอกาสที่จะทะลุ 1,000 เหรียญฯ/ออนซ์ได้ ราคาอ่อนตัวลงมาบ้างก็ถือว่ายังไม่น่าวิตก ราคาน้ำมันน่ากังวลกว่า โดยเราคาดว่าน่าจะได้เห็นการอ่อนตัวลงมาของราคาน้ำมันในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค. ก่อนจะดีดตัวกลับในช่วงปลายปี 2552 เรายังคงซื้อขายอย่างระมัดระวังในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับราคาน้ำมัน รวมถึงถ่านหิน คือ PTTEP และ BANPU

สินทรัพย์

แนวโน้ม/ ทิศทาง/ ความเห็น

Equity

กรอบสัปดาห์นี้คาด 685-725 จุด

ตลาดหุ้น

(SET/SET50

SET100/MAI)

Theme ลงทุนเลือกหุ้นพลังงาน-สื่อสาร-เกษตร

การลงทุนในสัปดาห์นี้ แนะนำ PTT, TOP, IRPC, PTTAR, PTTCH, DTAC, TRUE, ADVANC, CPF, TUF

PTT: ในฐานะผู้ถือหุ้น 50% คาดว่า Synergy การควบรวม 4 บจ.คาดคิดเป็นมูลค่าเพิ่มทั้งระบบไม่ต่ำกว่า 60,000 ล้านบาท กำไรต่อปี 14,000 ล้านบาทต่อปี คิดเป็น EPS คาดว่าเพิ่มได้ 2.50 บาทต่อหุ้น PTT คิดเป็น Fair Value ที่น่าจะได้จากการควบนี้ประมาณ 10-25 บาทต่อหุ้น (10 บาท คิดตาม DCF 4-5 ปี ส่วน 25 บาท คิดตามค่า PER 10 เท่า) รอปรับประมาณการขึ้นจาก 321 บาท

IRPC+TOP: หากคู่ที่นี้ควบกันน่าจะเป็นปัจจัยบวก TOP เน้นตัวเองไปธุรกิจโรงกลั่น และเติมส่วนขาดในสายปิโตรเคมีต้นน้ำให้กับ TOP (นาฟทาและเบนซีน) อาจมีปัญหาเรื่องพนักงานและวัฒนธรรมองค์กรบ้าง แต่อนาคตข้างหน้าทำกิจการร่วมกันในเรื่องปลายน้ำได้อีกหลายอย่าง เราคาดว่าทำเลที่ตั้งไม่ใช่อุปสรรคหลักในการควบรวม เพราะในต่างประเทศอยู่กันคนละประเทศยังควบกันได้มาแล้ว แต่การควบสร้างการประหยัดต่อขนาด IRPC จะดีขึ้นมากด้วย คาดการณ์คู่นี้ ณ ขณะนี้เราคาดการณ์ 10 หุ้น IRPC แลกได้ 1 หุ้น TOP (อัตราส่วน 10:1) โดยเราปรับราคาเป้าหมายขึ้นทั้ง TOP และ IRPC เป็น 53 และ 5.3 บาท ตามลำดับ (จากเดิม 49 และ 4.4 บาท)

PTTAR+PTTCH: การควบรวมกิจการครั้งนี้ อาจมีคู่สองเกิดขึ้นได้คือ PTTAR และ PTTCH โดยหากจับทั้งคู่รวมกันอีกSynergy จะครบถ้วนทั้งระบบรวมกันได้ 60,000 ล้านบาท เพราะถ้าควบเฉพาะคู่แรกเพียงคู่เดียวได้มูลค่าเพิ่มเพียงครึ่งเดียวการควบกันทั้งหมดน่าจะช่วยสร้าง Synergy ได้ดีขึ้น โดยเราคาดว่า 3 หุ้น PTTAR แลกได้ 1 หุ้น PTTCH (อัตราส่วน 3:1) และปรับราคาเป้าหมายของ PTTAR และ PTTCH ขึ้นเป็น 32 และ 94 บาท (จาก 21.7 และ 63 บาท) ตามลำดับ

ICT: ได้รับผลดีจากพัฒนาการของ 3G ที่มีความชัดเจนมากขึ้น โดย NTC จะประกาศร่างของหนังสือชี้ชวน (Information Memorandum) ในวันที่ 11 ก.ย.52 ก่อนที่จะทำประชาพิจารณ์ (Public consultation) ในวันที่ 28 ก.ย.52 กระบวนการตรวจสอบคุณสมบัติผู้เช้าประมูล (Prequalification) ช่วงต้นเดือน ต.ค. 52 และน่าจะประมูลใบอนุญาต (Auction) ได้ทันปีนี้ หุ้นที่เราชอบตามเรียงตามลำดับประโยชน์ที่ได้จาก 3G คือ DTAC, TRUE และ ADVANC โดยให้ราคาเหมาะสมที่ 114, 55, และ 4.60 บาท ตามลำดับ

CPF, TUF: คาดผลประกอบจะยังออกมาดีในไตรมาส 3 สำหรับ CPF ส่วน TUF คาดปีหน้าผลประกอบผลิตฟื้นอย่างมีนัยสำคัญ

ป้ายกำกับ:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]

<< หน้าแรก